สเปรย์น้ำแร่ ดียังไง

 

สเปรย์น้ำแร่ ดียังไง เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของผู้หญิงอย่างหนึ่ง มักใช้ฉีดพ่นตรงใบหน้า ก่อนหรือหลังการแต่งหน้า  เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้น และให้ความรู้สึกสดชื่น กะปรี้กะเปร่า ซึ่งจากการที่น้ำแร่ มีแร่ธาตุจากธรรมชาติและสารต่าง ๆ อย่าง วิตามิน ซิงค์ เซเรเนียม ฯลฯ ทำให้เมื่อซึมซาบเข้าสู่ผิว จะทำให้ใบหน้าของเราได้รับการบำรุงไปในตัว โดยน้ำแร่ที่ใช้นั้น จะไม่ใช้น้ำแร่ ที่เป็นแบบน้ำดื่ม มาใช้ในการฉีดพ่น แต่จะใช้น้ำแร่ที่ถูกผลิตออกมาเป็นพิเศษ ที่มีความเข้มข้นของแร่ธาตุและสารประกอบต่าง ๆ สูง มาใช้ในการบำรุงผิว

แร่ธาตุที่อยู่ใน สเปรย์น้ำแร่ ดียังไง มีอะไรบ้าง

สเปรย์น้ำแร่ ดียังไง น้ำแร่ มีแร่ธาตุตามธรรมชาติ ที่มากกว่าน้ำสะอาดทั่วไป ทำให้เมื่อซึมซาบเข้าสู่ผิว จะมีฤทธิ์ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น มีความเนียนนุ่ม สุขภาพดี นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์อีกหลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานมากขึ้น หรือ ให้ความสดชื่นระหว่างวัน โดยแร่ธาตุที่อยู่ใน สเปรย์น้ำแร่ ส่วนใหญ่ ประกอบด้วย

1. ไฮยาลูรอน แอซิด

ถูกใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ให้ความชุ่มชื้น เนื่องจากมีคุณสมบัติดูดซับและกักเก็บโมเลกุลของน้ำได้ดี สามารถอุ้มได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนักตัวมันเอง จึงทำให้ผิวยืดหยุ่น ชุ่มชื้น ไม่แห้งเสีย ซึ่งหากมีขนาดโมเลกุลเล็กลง มากกว่า 150 kda จะมีคุณสมบัติในการซึมผ่านชั้นผิวหนังอย่างล้ำลึก จากชั้นหนังกำพร้าถึงชั้นหนังแท้ ช่วยกระตุ้นให้ชั้นผิวหนังทั้งสอง มีการสร้างไฮยาลูรอน แอซิด ทำให้ผิวหนังกลับมาดูอิ่มฟู ชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น และยังช่วยกระตุ้นชั้นหนังแท้ ให้สร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวกลับมามีความยืดหยุ่น เรียบเนียน ดูสุขภาพดีมากกว่าเดิม

2. สารสกัดจากเมือกหอยทาก

สารสกัดจากเมือกหอยทาก เป็นส่วนผสมที่กลายเป็นจุดเด่นของ สเปรย์น้ำแร่ หลายผลิตภัณฑ์ เพราะมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยฟื้นฟูผิว และซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายตามธรรมชาติ ให้กลับมามีสภาพสมบูรณ์ดังเดิม โดยมีสารประกอบหลัก คือ สารอัลแลนโทอิน ที่มีฤทธิ์ในการการต้านอักเสบและการระคายเคืองของผิว กรดไกลโคอิก ที่ช่วยในเรื่องของผลัดเซลล์ผิวใหม่ และควบคุมความมัน โปรตีน ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และเปปไทด์ ที่มีฤทธิ์ในการต้านแบคทีเรียและเชื้อรา นอกจากนี้ ยังพบไฮยาลูรอน แอซิด ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้ผิวชุ่มชื้น และยกกระชับผิว ลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอีกด้วย

3. สารสกัดจากดอกกุหลาบ

ภายในดอกกุหลาบ โดยธรรมชาติมีวิตามินและแร่ธาตุอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี วิตามินบี วิตามินเค แคโรทีน แคลเซียม โพแทสเซียม ทองแดง และไอโอดีน ทำให้เมื่อทำเป็นสารสกัดออกมา สำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว อย่าง สเปรย์น้ำแร่ จะมีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี สามารถป้องกันการเกิดริ้วรอยฟื้นฟูเซลล์ผิวภายในให้แข็งแรง คืนความชุ่มชื้นให้กับผิว ลดการเกิดสิวและการอักเสบ ช่วยกระชับรูขุมขน ลดรอยจุดด่างดำและความหมองคล้ำ เพิ่มความกระจ่างใสให้ผิว นอกจากนี้ ยังทำให้สเปรย์น้ำแร่มีกลิ่นหอมจากดอกกุหลาบโดยธรรมชาติอีกด้วย

4. วิตามิน

นอกจากช่วยให้ผิวชุ่มชื้น สดชื่น กะปรี้กะเปร่า ผลิตภัณฑ์สเปรย์น้ำแร่หลายยี่ห้อ ยังได้ใส่วิตามินต่าง ๆ ทั้งวิตามินซี วิตามินอี เข้ามาช่วยในการบำรุงผิวด้วย ซึ่งวิตามินซีนั้น จะช่วยในเรื่องของป้องกันผิวคล้ำเสียจากแสงแดด กระตุ้นให้ผิวหน้าสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง สุขภาพดี ในขณะที่วิตามินอี จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวไม่แห้ง ดูเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล และทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงเซลล์ผิวล้ำลึก ปกป้องสิ่งสกปรกไม่ให้แทรกซึมเข้าไปในผิวหนังของเรา ไม่ว่าเป็น ฝุ่นควัน มลภาวะ ควันบุหรี่ ต่าง ๆ

5. ซิงค์

ซิงค์ เป็นสารสำคัญที่ทำให้ผิวหนังบนร่างกายของเรา มีความชุ่มชื้น มีน้ำมีนวล ไม่แห้งเสีย ทำให้เป็นสารสำคัญอีกชนิดหนึ่งที่พบได้ในสเปรย์น้ำแร่ โดยยังมีคุณสมบัติช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้า ทำให้ความมันวาวบนผิวลดลง รูขุมขนดูเล็กลง และช่วยทำให้เมคอัพติดทนนานมากยิ่งขึ้น

สเปรย์น้ำแร่ ดียังไง สเปรย์น้ำแร่ โดยส่วนใหญ่มักมีส่วนผสมจากแร่ธาตุ กรดและวิตามินจากธรรมชาติ ทำให้หากใช้บ่อย ๆ ก็จะไม่ส่งผลอันตรายแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์สเปรย์น้ำแร่บางส่วน ก็ได้มีการใส่ส่วนผสมต่าง ๆ เข้ามาด้วย เพื่อปรุงแต่งกลิ่นให้น่าใช้งาน หรือ ยืดอายุการใช้งาน เช่น แอลกอฮอลล์ พาราเบน น้ำหอม ฯลฯ ดังนั้น หากคุณเป็นคนที่ผิวบอบบาง แพ้ง่าย ควรหลีกสเปรย์น้ำแร่ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์ และพยายามเลือกใช้แต่สเปรย์น้ำแร่ที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุจากธรรมชาติเพียงอย่างเดียว จะเป็นการดีที่สุด เพื่อป้องกันการเกิดอาการเพ้หรือก่อให้เกิดการระคายเคือง

สำหรับเคล็ดลับในการฉีดสเปรย์น้ำแร่นั้น สามารถทำได้ทั้งก่อนหรือหลังแต่งหน้า โดยฉีดให้ห่างจากหน้าประมาณ 1 ฟุต เพื่อให้ละอองฝอยซึมซาบเข้าสู่ผิว ไม่ติดเป็นหยดน้ำบนหน้า เสร็จแล้ว ปล่อยทิ้งไว้ 30 วินาที แล้วจึงเริ่มลงสกินแคร์หรือแต่งหน้าตามปกติ ทั้งนี้ หากมีหยดน้ำแร่ติดบนหน้า ให้ใช้กระดาษทิชชู่ซับให้แห้ง ไม่ควรปล่อยให้แห้งเอง เพราะถ้าปล่อยให้มันแห้งเอง น้ำส่วนเกินบนผิวหน้า จะพาเอาความชุ่มชื้นออกจากหน้าของเราไปด้วย