ครีมใต้ตา 7-11 ขอแนะนำครีมบำรุงรอบดวงตาราคาไม่แพงของ 7-Eleven ที่ช่วยขจัดรอยคล้ำและทำให้ดูสว่างขึ้นรอยคล้ำรอบดวงตาเป็นปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญไม่ว่าจะทำงานหรือเรียนหนังสือก็ตาม หมายถึงมืดจนจำสีเดิมไม่ได้ นอกจากนี้รอยคล้ำใต้ตายังเป็นแผลเป็นประเภทหนึ่งที่รักษาได้ยากมาก ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ช่วยลดความหมองคล้ำยังมีราคาแพงมากอีกด้วย วันนี้ GangBeauty มีครีมบำรุงรอบดวงตาลดรอยคล้ำมาฝากค่ะ เป็นอายครีมที่ดีและราคาไม่แพง นอกจากนี้ยังหาซื้อได้ง่ายจากร้านสะดวกซื้ออีกด้วย อันไหนน่าซื้อครับ? มาดู 8 เซเว่น อายครีม ที่ใช้ง่ายกันดีกว่า ช่วยลดรอยคล้ำใต้ตา ราคาไม่แพง
ครีมใต้ตา 7-11 Smooto Vita Berry Bright Eye Serum
ครีมใต้ตา 7-11 เริ่มต้นกันด้วยอายครีมเซเว่น Smooto Vita Berry Bright Eye Serum เป็นอายครีมเนื้อเซรั่มที่มีส่วนผสมของเบอร์รี่พันธุ์ดี ประกอบด้วย เบอร์รี่ 7 ชนิด คือ บิลเบอร์รี่ แบล็กเคอร์เรนต์ แครนเบอร์รี่ โช้คเบอร์รี่ เอวเดอร์เบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ และอะซาอิ เบอร์รี่ ผสานด้วยสารสกัดจากแตงกวา และว่านหางจระเข้ ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวรอบดวงตาให้ชุ่มชื้น ลดเลือนรอยหมองคล้ำให้จางลง ให้ผิวรอบดวงตากระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว
Rojukiss Perfect Poreless Eye For Face Cream
ต่อกันด้วยอายครีม Rojukiss Perfect Poreless Eye For Face Cream ตัวนี้เป็นครีมบำรุงรอบดวงตาที่สามารถใช้กับผิวหน้าได้ มีส่วนผสมของ Collagen 2,000 Da 10x เท่า Red Sage และ Witch Hazel ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวรอบดวงตาและผิวหน้าได้อย่างมีประสิทิภาพ ช่วยลดเลือนสัญญาณความร่วงโรยของผิว รวมทั้งเส้นริ้ว ผิวไม่สม่ำเสมอให้จางลง พร้อมช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ให้ผิวกระจ่างใส เรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
Yanhee Eye Gel
สำหรับ Yanhee Eye Gel เป็นอายครีมสูตรเฉพาะของรพ.ยันฮี ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก ว่านหางจระเข้ แตงกวา Propylene glycol และ Tocopherol ช่วยลดรอยคล้ำ ริ้วรอยบริเวณใต้ตาและหางตา ให้กระจ่างใส และะเรียบเนียนขึ้น พร้อมทั้งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวรอบดวงตา นนอกจากนี้ยังช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวรอบดวงตาให้แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น
Smooth E Gold Perfect Eye Solution
สำหรับ Smooth E Gold Perfect Eye Solution ตัวนี้เป็นอายครีมเนื้อเซรั่มเข้มข้น ช่วยบำรุงผิวรอบดวงตา และเปลือกตาอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดเลือนรอยบวมช้ำ และรอยหมองคล้ำใต้ตาให้จางลง และช่วยบำรุงผิวบริเวณดวงตาให้แข็งแรงขึ้น พร้อมทั้งช่วยลดริ้วรอย ให้ผิวรอบดวงตากระจ่างใส เปล่งประกาย เนียนเรียบ สว่างสดใสดูอ่อนกว่าวัย ามารถใช้ได้ทุกสภาพผิวค่ะ
วิธีดูแลผิวรอบดวงตาและบำรุงใต้ตา
1.ดูแลผิวรอบดวงตาด้วยการนอนแต่หัวค่ำ วิธีดูแลผิวรอบดวงตาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการนอนเร็ว เพราะต้องใช้เวลาสักพักก่อนที่เราจะหลับไปจริงๆ บางคนต้องใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมงจึงจะหลับได้ การหลับลึกหมายความว่าเราไม่ได้ฝัน แน่นอนว่าเราไม่สามารถควบคุมความฝันของเราได้ แต่เราสามารถควบคุมการนอนหลับของเราได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเข้านอนเร็ว เพราะไม่เพียงแต่จะไม่ทำให้บริเวณรอบดวงตาของคุณคล้ำขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้บริเวณรอบดวงตาคล้ำอีกด้วย อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เมื่อร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ระบบต่างๆ ในร่างกายก็ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. ดูแลผิวรอบดวงตาด้วยการทาครีมบำรุงรอบดวงตา หากบริเวณรอบดวงตาของคุณคล้ำจนไม่มีเวลาพัก แนะนำให้ทาครีมบำรุงรอบดวงตาเพื่อบำรุงและฟื้นฟูบริเวณรอบดวงตา เพราะการใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาจะช่วยเพิ่มระดับคอลลาเจนและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวรอบดวงตา อีกทั้งยังช่วยให้บริเวณรอบดวงตาดูสดใสขึ้นอีกด้วย สดใสและมั่นใจอีกครั้ง
3. ดูแลผิวรอบดวงตาด้วยมาส์ก นอกจากการดูแลบริเวณรอบดวงตาเป็นประจำในตอนเช้าและก่อนนอนแล้วยังใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาอีกด้วย คุณควรดูแลผิวรอบดวงตาให้มากขึ้น วิธีใช้มาส์กใต้ตาเพื่อขจัดรอยคล้ำ แนะนำให้เก็บมาส์กไว้ในตู้เย็นก่อนทา สิ่งนี้จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจมากขึ้น และทางที่ดีควรมาส์กใต้ตาสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
4. ดูแลผิวรอบดวงตาด้วยการประคบ คุณเคยได้ยินมาว่าการประคบช่วยสมานผิวรอบดวงตาและป้องกันอาการบวมหรือไม่? และจะไม่น่าเบื่อด้วย การใช้ลูกประคบถุงชาเขียวมีประสิทธิภาพมาก เพราะชาเขียวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถทำให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอยได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
รอยคล้ำใต้ตาเกิดได้หลายสาเหตุ
1) ความเหนื่อยล้า: ครีมใต้ตา 7-11 การพักผ่อนไม่เพียงพอหรือนอนหลับไม่เพียงพอทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตา รวมถึงถุงใต้ตาและอาการบวม
2) อายุที่มากขึ้น: เมื่อเราอายุมากขึ้น ผิวของเราจะบางลง นอกจากนี้เรายังสูญเสียไขมันและคอลลาเจนซึ่งช่วยรักษาความยืดหยุ่นของผิว ทำให้หลอดเลือดใต้ผิวหนังมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ผิวใต้ตาดูเข้มขึ้น
3) อาการตาล้า: การจ้องโทรศัพท์หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์มากเกินไป ทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าของดวงตา ทำให้หลอดเลือดรอบดวงตาขยายตัว ส่งผลให้ผิวรอบดวงตามีสีเข้มขึ้น
4) โรคภูมิแพ้: ภูมิแพ้และตาแห้งอาจทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาได้ เพราะในระหว่างที่เกิดอาการแพ้ ร่างกายจะปล่อยฮีสตามีนออกมาเพื่อตอบสนองต่อแบคทีเรียที่เป็นอันตราย ฮิสตามีนนี้ทำให้หลอดเลือดขยายตัว จึงมองเห็นจุดด่างดำได้ชัดเจน และมักมีอาการคัน ตาแดง และตาบวมร่วมด้วย
5) การสัมผัสกับแสงแดดมากเกินไป: การสัมผัสกับแสงแดดหรือแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานานทำให้ร่างกายผลิตเมลานินมากเกินไป ทำให้ผิวคล้ำขึ้นรวมถึงผิวรอบดวงตาด้วย
6) พันธุกรรม: รอยคล้ำใต้ตาสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ เมื่อคุณอายุมากขึ้น รอยคล้ำใต้ตาอาจค่อยๆ เกิดขึ้น หายไป หรือแย่ลง โรคต่างๆ เช่น โรคต่อมไทรอยด์ก็อาจทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาได้เช่นกัน
บทความแนะนำ